แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เตรียมฝึก แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เตรียมฝึก แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2554

การพูด

  การพูด

การพูด  มีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์เป็นอันมาก  ไม่ว่าจะอยู่  ณ  ที่ใด    ประกอบกิจการงานใด  หรือคบหาสมาคมกับผู้ใด  ก็ต้องสื่อสารด้วยการพูดเสมอ  จึงมักพบว่า  ผู้ที่ประสบความสำเร็จในกิจธุระการงาน   การคบหาสมาคมกับผู้อื่น  ตลอดจนการทำประโยชน์แก่สังคมส่วนรวม    ล้วนแต่เป็นคนที่มีประสิทธิภาพในการพูดทั้งสิ้นส่วนหนึ่งของการพูดสามารถสอนและฝึกได้  อาจกล่าวได้ว่า  การพูดเป็น   " ศาสตร ์"  มีหลักการ และกฎเกณฑ์เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะ ถึงขั้นเป็นที่พอใจอีกส่วนหนึ่งเป็นความสารถพิเศษหรือศิลปะเฉพาะตัวของผู้พูดแต่ละบุคคล  บางคนมีความสามารถที่จะตรึงผู้ฟังให้นิ่งอยู่กับที่จิตใจจดจ่ออยู่กับการฟังเรื่องที่พูด  ผู้พูดบางคนสามารถพูดให้คนฟังหัวเราะได้ตลอดเวลา  ศิลปะเฉพาะตัวนี้
            เป็นสิ่งที่ลอกเลียนกันได้ยาก  แต่อาจพัฒนาขึ้นได้ในแต่ละบุคคล  ซึ่งการพูดที่มีประสิทธิภาพเกิดจากการสังเกตวิธีการที่ดีและมีโอกาสฝึกฝน
                                ประเภทของการพูด   แบ่งได้  2  ประเภท  คือ
                        1.  การพูดระหว่างบุคคล  ได้แก่
      •     การทักทายปราศัย  ลักษณะการทักทายปราศัยที่ดีดังนี้
        • หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส  แสดงอาการยินดีที่ได้พบผู้ที่เราทักทาย
        • กล่าวคำปฏิสันถารที่เป็นที่ยอมรับกันในสังคม  เช่น สวัสดีครับ  สวัสดีค่ะ
        • แสดงกิริยาอาการประกอบคำปฏิสันถาร
        • ข้อความที่ใช้ประกอบการทักทายควรเป็นเรื่องที่ก่อให้เกิดความสบายใจ
      •  การแนะนำตนเอง  การแนะนำเป็นสิ่งจำเป็น และมีความในการดำเนินชีวิตประจำวัน  บุคคลอาจแนะนำตนเองในหลายโอกาสด้วยกัน การแนะนำตนเองมีหลักปฏิบัติดังนี้คือ  ต้องบอกชื่อ   นามสกุล  บอกรายละเอียดกับตัวเรา และบอกวัตถุประสงค์ในการแนะนำตัว
      •  การสนทนา   หมายถึง  การพูดคุยกัน  พูดจาเพื่อนสื่อสารแลกเปลี่ยนความรู้  ความคิด  ความรู้สึก  และประสบการณ์   การรับสารที่ง่ายที่สุ  ด    คือ  การสนทนา    
        •  คุณสมบัติของการสนทนาที่ดี  คือ
          • หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส
          • ใช้ถ้อยคำสำนวนภาษาที่ง่าย  ๆ  สุภาพ  คำพูดและน้ำเสียงน่าฟัง เป็นกันเองกับคู่สนทนา                                                     
                           2. การพูดในกลุ่ม                                              การพูดในกลุ่มเป็นกิจกรรมที่สำคัญในสมัยปัจจุบัน  ทั้งในชีวิตประจำวันและในการศึกษาเป็นเปิดโอกาสให้สมาชิกในกลุ่มได้ซักถาม  แสดงความคิดเห็น  หรือเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วมาเล่าให้ฟังกัน  มีวิธีการดังต่อไปนี้
          •  เล่าถึงเนื้อหาและประเด็นประเด็นสำคัญ ๆ  ว่ามีอะไรบ้าง
          • ภาษาที่ใช้ควรเป็นภาษาที่ง่าย
          • น้ำเสียงชัดเจนน่าฟัง  เน้นเสียงในตอนที่สำคัญ   
          • ใช้กิริยาท่าทางประกอบการเล่าเรื่องตามความเหมาะสม
          • ผู้เล่าเรื่อควรจำเรื่องไดเป็นอย่างดี
          • มีการสรุปข้อคิดในตอนท้าย

    วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

    การเขียนจดหมายสมัครงาน เป็นภาษาอังกฤษ

    การเขียนจดหมายสมัครงาน เป็นภาษาอังกฤษ
    ภาษาอังกฤษ

    (Specimen of Application Letter)

    52/107 Buaban Villa

    Sukhaphiban 2

    Bangkapi

    Bangkok

    12 March 1990

    The Bureau Chief

    NHK TV, 6 F MOT Building,

    Rama 6 Road,
    Bangkok 10310

    Dear Sir,

    Your advertisement in the Bangkok Post of March 10, 1990, for the position of a translator has attracted my attention because I think that my qualifications will fulfil your requirements.

    I am a graduate from poona University in India and hold a Master’s degree in Politics and Public Administration. While studying at the University, I had a part-time job as a translator for the royal Thai Consulate in Bombay. From time to time, I also contributed some English articles to the University’s magazine and won several prizes in the essay contests. My English and Thai typing speeds are 50 words and 40 words a minute respectively. Because of my translation and writing experience, I am confident that I will be able to do a good job for you.

    H.E. Prateep Rewangnam, Consul-General in Bombay, has permitted me to use his name as a referee, Enclosed you will find my detailed Resume, a degree certificate and two recent photographs.

    I shall be able to call for and interview at your convenience and shall be glad to give you any further information that you may require. If you wish to telephone me, my number is 433-1907

    Your faithfully

    (Mr. BANDIT SAISAARD)





    ตัวอย่างประวัติย่อภาษาอังกฤษ

    Resume of

    Lamduan chadchaidee

    52/107 Buaban Villa, Sukhaphiban 2, Bangkapi, Bangkok.

    Personal Details :

    Sex : Male

    Age : 31 years old

    Height : 5 feet 3 inches

    Weight : 50 Kilogrammes

    Health : Good

    Nationality : Thai

    Marital statur : Single

    Religion : Boddhism

    Education :

    1984 – Fergusson College, India, B.A. (English), Grade B.

    1986 – Poona University, India, M.A. (Politics). Grade B.

    Extra-curricular activities

    - Translating news and other documents for the Royal Thai Consulate in Bombay, India.

    - Elected as a staff-writer for the university’s magazine, The Symbiosis Review.

    - Elected as president of Thai Student’s Association, India

    - Teaching English to junior Thai student

    Hobbies

    Reading, Book-collecting and trabelling

    Typing Speed

    English : 50 words a minute

    Thai : 40 Words a minute

    Experience :

    1987 – English Teacher at Prasit English School in Bangkok

    1988 – Author of “Business Correspondence”, now in 4th edition.

    1989 – Sutor of “job application & Interview”, now in 3rd edition.

    Referees :

    H.E.Prateep Rawangnam, Royal Thai Consulate, Bombay, India.

    Prof.Dr.S.N. Tawale, Department of Politics, Poona University, India.

    Mr. Chanchai Huadsi, Prasit English School, Silom Road, Bangkok.

    ตัวอย่างใบสมัครงานภาษาอังกฤษ

    Application Form

    ตำแหน่งที่ต้องการ : เลขานุการ

    Position Appliecd for : Secretary

    เงินเดือนที่ต้องกากร : 15,000 บาท

    Expected Salary : 15,000 Bath

    ชื่อ – สกุล : นายสุนทร มาไว

    Name in English : Mr. Soontorn Mawai

    เพศ : ชาย/หญิง

    Sex : Male/Female

    วัน เดือน ปีเกิด : 12 กุมภาพันธ์ 2530

    Date of Birth : 12th February 1987

    ส่วนสูง : 170 ซม. น้ำหนัก : กก.

    Height : 170 cm. Weight : 65 Kg.

    ตำหนิ : แผลเป็นที่มือขวา

    Sear : Wounded right hand

    กรุ๊ปเลือด : กรุ๊ปเลือด A

    Blood Group : Blood Group A

    สถานที่เกิด : กรุงเทพฯ

    Place of Birth : Bangkok

    โทรศัพท์ที่จะติดต่อ : 765-4321 (สำนักงาน)

    Telephone : 765-4321 (Office)

    ที่อยู่ปัจจุบัน : 123 หมู่ 8 ถนนเอกชัย บางบอน บางขุนเทียน กทม.

    Present Address : 123 Moo 8 Egkachai Rd. Bangbon Bangkhuntien Bangkok

    ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน (เขียนตามทะเบียนบ้าน)

    Permanent Address

    บัตรประชาชาชนเลขที่ : 24 123456 732

    ID. Card No. : 24 123456 732

    ออกให้ ณ : อำเภอเขตบางขุนเทียน จังหวัดกรุงเทพมหานคร

    Issued at : Bangkhuntien Proviince Bangkok

    วันที่ออกบัตร : 15 พฤษภาคม 2536

    Issued Date : 15th May 1993

    วันหมดอายุ : 14 พฤษภาคม 2542

    Expired Date : 14th May 1999

    สถานะความเป็นอยู่ : บ้านส่วนตัว บ้านเช่า อาศัยบิดามารดา

    Living Status : Own House, Rent Home, Live with Parent

    สถานะครอบครัว : โสด แต่งงาน หย่า หม้าย แยกกันอยู่

    Marital Status : Single, Married, Divorced, Widowed, Separated

    ชื่อคู่สมรส : อาชีพ สถานที่ทำงาน

    Spouses Name : Occupation Firm Address

    ชื่อบิดา : สมบูรณ์ อายุ : 55 ปี อาชีพ : รับราชการ

    Name of Father : Somboon Age : 55 Occupation : Government Officer

    ชื่อมารดา : จินตนา อายุ : 50 ปี อาชีพ : แม่บ้าน

    Name of Mother : Jintana Age : 50 Occupation Housewife

    สถานะทางทหาร : ได้รับการยกเว้น ศึกษาวิชาทหาร และผ่านการเกณฑ์ทหาร

    Military Status : Exempted Military Studied and Conscripted



    --------------------------------------------------------------------------------
    คำ ศัพท์ที่ควรรู้ในการเขียนใบสมัครงาน

    ผู้สมัครงานอาจต้องเขียนใบสมัครเป็นภาษาอังกฤษ และต้องกรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ การกรอกใบสมัครเป็นภาษาอังกฤษจึงเป็นอุปสรรคของผู้สมัครงานอีกประการหนึ่ง

    ตัวอย่างคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มักใช้ในใบสมัคร ได้แก่

    Application Form = ใบสมัคร

    Application Letter = จดหมายสมัครงาน

    Applicant = ผู้สมัครงาน

    To be completed in = เขียนใบสมัครด้วยลายมือตนเอง

    Own handwriting

    Confidential = ความลับ

    Photo attached here = ติดรูปถ่ายตรงนี้

    Position applied for/ = ตำแหน่งที่สมัคร/ตำแหน่งที่ต้องการ

    Position sought/

    Position desired

    Expected Salary = เงินเดือนที่ต้องการ

    Personal data = ประวัติส่วนตัว

    Curriculum vitae, Bio-data,

    Data Sheet, Resume

    Name-Surname = ชื่อ-สกุล

    Maiden Name = นามสกุลเดิม

    Sex = เพศ (ชายใช้ Male หญิงใช้ Female)

    Present address = ที่อยู่ปัจจุบัน

    Permanent address = ที่อยู่ถาวร

    Postal code = รหัสไปรษณีย์

    Date of birth = วัน เดือน ปีเกิด

    Age = อายุ

    Nationality = สัญชาติ

    Race = เป็นพลเมืองประเทศ

    Domicile = ภูมิลำเนา

    Religion = ศาสนา (Buddhism, Islam, Catholic)

    Height = ส่วนสูง

    Weight = น้ำหนัก

    Colour of eyes = สีตา

    Colour of hair = สีผม

    Complexion = สีผิว

    Marital status = สถานภาพทางการสมรส

    Spouse = คู่สมรส

    Single = โสด

    Married = แต่งงานแล้ว

    Widowed = ม่าย

    Divorced = หย่าร้าง

    Occupation = อาชีพ

    Dependants = ผู้ที่อยู่ในความอุปการะ

    House’s Registration = สำเนาทะเบียนบ้าน

    Identity Card No., I.D.Card No. = เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน

    Identification Card (I.D.Card) = บัตรประจำตัวประชาชน

    Relative = ญาติ

    Issued by……….. = ออกให้ โดย……….

    Issued Date = วันที่ออกบัตร

    Valid Date ; Expire Date = วันที่บัตรหมดอายุ

    Student Housing = หอพักมหาวิทยาลัย

    Own House = บ้านของตนเอง

    Rent House = บ้านเช่า

    Live with Parents = พักอยู่กับ พ่อ-แม่

    Boarding House = หอพัก

    Ordainment = บวช

    Person to notify in case of = บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีเร่งด่วน

    emergency

    Military status = สถานภาพทางทหาร

    Exempted = ยกเว้น

    Black Slot = จับได้ใบดำทางทหาร

    No Military Service = ไม่มีพันธะทางทหาร

    Primary School; Elementary = ประถมศึกษา

    School

    Secondary School = มัธยมศึกษาตอนต้น

    High School = มัธยมศึกษาตอนปลาย

    Vocational Certificate = ประกาศนียบัตรประโยคอาชีวศึกษา

    Vocational = อาชีวศึกษา

    High Vocational Certificate = ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง

    Bachelor’s degree = ปริญญาตรี

    Experience/Previous = วุฒิการศึกษาที่ได้รับ

    employment

    Reasons for leaving = เหตุผลที่ลาออกจากงาน

    Reference = บุคคลที่อ้างอิง

    Applicant signature = ลายเซ็นผู้สมัคร

    Applicant name = ชื่อผู้สมัคร



                                    --------------- จบจ้า ---------------

    บทสนทนาสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ

    บทสนทนาสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ


    การทักทาย (Greeting) ส่วนนี้เป็น part แรกในการสนทนา.
    Q : Good morning / afternoon
    A : Good morning / afternoon – sir / mam.
    Q : How are you today?
    How are you doing? ** ทั้งหมดความหมายเดียวกัน ว่า สบายดีไหม**
    How do you do?

    A : I’m fine / I’m good ..thanks and you?
    Q : ก็แล้วแต่เค้าจะตอบ

    การสัมภาษณ์ ( interview ) ส่วนนี้เป็นการเข้าเรื่องการสัมภาษณ์
    Q : Would you like to tell me about yourself? อยากให้เล่าเกี่ยวกับตัวเอง
    A : I was born in …
    I graduated from …. In …ปีที่จบ
    Major ….
    When I was student. I have experienced sum part time jobs as …. (ถ้ามี / ถ้าไม่มีข้ามไป)
    On my free time. I like to surf net and ….(งานอดิเรก) เช่น reading, movies, แต่ควรจะเป็น เรื่องที่เกี่ยวข้องกะงานเอาไว้จะดีกว่า ....


    Q : Would you like to tell me about your wok experiences? เล่าการทำงาน
    A : After graduated in 2000 (สมมติ) I have got a first job at ….ชื่อบ.
    Worked as … ตำแหน่งงาน
    My responsibility are …. ทำอะไรบ้าง ....

    Second job ….งานที่ 2 …
    ** ให้เล่าอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบตามประสบการณ์ของเรา **
    คำถามเพิ่มเติม จากการเล่าประสบการณ์ของเรา Following questions
    Q : Do you have a computer skill ? ทักษะคอม
    Can you speak other language? พูดภาษาอื่นได้อีกไหม
    Can you use internet? ใช้อินเตอร์เน็ต
    Can you use office material? เครื่องใช้สำนักงานเป็นไหม
    - Yes I can .
    Do you stay alone in Bangkok? อยู่กรุงเทพคนเดียวเหรอ
    - Yes / No, with friends,relatives
    Do you have sister or brother? อันนี้โดนเองเลย .. ไม่รู้จะถามทำไม
    - Yes,1 sister / No am the only one child.

    ** คำถามมีอีกมากมาย แต่เท่าที่พบด้วยตัวเองก็จะประมาณนี้ **
              หลังจากนั้นผู้สัมภาษณ์จะเล่าเกี่ยวกับบริษัทของเขา เช่น ลักษณะธุรกิจ เปิดมากี่ปีแล้ว บริษัทแม่อยู่ที่ไหน วัตถุประสงค์ อื่นๆ แล้วก็จะวกเข้ามาที่ตำแหน่งที่เราสมัครว่า ทำไมเขาจึงมีความต้องการรับคนเข้าทำงานในตำแหน่งนี้ ซึ่งคุณนายไม่สามารถเขียนบรรยายได้เพราะมันมากมาย ... เอาเป็นว่าเขาจะถามเราแล้วหล่ะว่า
    Q : Do you have any questions?
    Any questions?
    About our business, do you have a questions?

    ซึ่งถ้าเราไม่แน่จัย ก็ให้บอกว่า
    A : No, I will have more question after I’ll see you again. ยังไม่มีตอนนี้ เอาไว้ร่วมงานกันแล้วมีแน่ๆ ประมาณนั้น
    หรือถ้าเราเกิดสงสัยต่างๆ ก็ตั้งคำถามที่เกี่ยวข้องกับตัวงาน เพื่อให้เขารู้สึกว่า เราสนจัย
    A : How many staffs are working in this section? มีพนักงานทำงานตำแหน่งนี้กี่คน

    ** ถ้าเราไม่มีคำถามแล้ว เขาอาจจะปิดการสัมภาษณ์ **
    Q : Well,we will need to talk together then will give you feedback later.
    We will call you later.
    We will get back to you as soon as possible.
    ** อีกมากมาย **
    A : Yes .. Thank you very much I will look forward to hear from you ขอบคุณ ฉันจะรอ .. ในที่นี่หมายถึง โทรศัพท์

    Q : Sure .. thanks for coming แน่นอน .... ขอบคุณที่แวะมา
    A : Thanks for your time and opportunity ขอบคุณที่ให้โอกาศและเสียสละเวลามาสัมภาษณ์

    Q : Have a nice day … Goodbye / Goodluck
    A : Thanks , same to you .. ถ้าเราไม่อยากพูดยาว หรือไม่ก็พูดเหมือนเขานั่นแหละ

              เอาหล่ะ .. คงจะได้ไอเดียกันบ้าง คุณนายไม่ได้ลอกที่ไหนมานะพยายามเขียนออกจากประสบการณ์( ที่นานมาแล้ว ) มาแบ่งปันกันเผื่อว่าจะได้เป็นแนวทางให้เพื่อนๆได้ลองศึกษาดูและนำไปใช้ในแบบที่ตัวเองถนัด.. สำหรับการตั้งคำถามของผู้สัมภาษณ์ เท่าที่สัมผัสมา มันไม่น่าจะเกินนี้ ยิ่งถ้าเป็นคนไทยสัมภาษณ์หล่ะก็ จะเป็นอย่างนี้เลยแต่ถ้าเป็นฝรั่งก็อาจจะมีนอกเหนือแต่ก็ไม่ออกนอกโลกไปมากมาย ถ้าเราไม่เข้าจัยในคำถามหรือฟังไม่ทัน เราสามารถบอกเขาได้เลยว่า
    - Pardon me / excuse me can u repeat it again? ขอโทษนะ พูดอีกทีได้ไหม
    - Sorry, I can’t catch it, can you speak slowly? ขอโทษนะฟังไม่ทัน พูดช้าๆหน่อยได้ไหม
    - Sorry , think my Eng is not so good, can you speak again please? ขอโทษนะภาษาไม่ค่อยดีพูดอีกทีได้ไหม

              เขาไม่ตัดสินเราเพราะว่าเราให้พูดซ้ำอีกทีหรอกนะ แต่อย่าทำบ่อยไม่ดีๆ

                            --------------------------- จบ งับ อิอิอิอิ ---------------------------------

    วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

    Joomla




    joomla

    คืออะไร คำถามนี้มักจะอยู่ในใจของทุกคน ในขณะที่คุณได้ยินคำว่า "joomla" เป็นครั้งแรก เพราะชื่อที่ฟังแล้วแปลกหู เป็นชื่อที่ไม่คุ้นเคย แต่ถ้าหากเป็นคนที่อยู่ในวงการ Internet และ Website แล้วหละก็ ผมเชื่อแน่ว่า joomla คือ ชื่อที่ได้ยินแล้วรู้สึกโปรดปรานเป็นอย่างยิ่ง ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับ joomla กันผมขอเกริ่นนำเกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์ให้พอเข้าใจกันก่อน เพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการทำความเข้าใจกับ joomla

    การสร้างเว็บไซต์จากอดีตจนถึงปัจจุบัน มีวิวัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงไปในทุก ๆ วัน เริ่มจากการใช้ภาษาในการเขียนเว็บไม่กี่ภาษา มาเป็นใช้ภาษาหลาย ๆ ภาษาร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นภาษา HTML, DHTML, PHP, ASP ฯลฯ นอกจากนี้หากต้องการให้เว็บไซต์ของเรามีความสวยงามก็จะต้องมีความรู้ทางด้านกราฟฟิกส์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อ ย่อ ขยาย รูปภาพ สร้างภาพที่เป็น GIF Animation หรือจะให้ดูนุ่มนวลก็จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับการสร้าง Flash ด้วยความหลายกหลายที่จำเป็นจำต้องมีในเว็บไซต์นั้น การที่จะสร้างเว็บส่วนตัว หรือองค์กรให้สวยงามและมีประสิทธิภาพ ด้วยคนเพียงคนเดียวนั้นอาจต้องใช้เวลานานมาก ด้วยเหตุนี้ปัจจุบันจึงมีกลุ่มคนที่รวมตัวกัน และร่วมกันพัฒนา ต้องขอใช้คำว่า "เว็บไซต์กึ่งสำเร็จรูป" ขึ้นมา เพื่อเป็นการลดภาระการทำงานหลาย ๆ ด้าน ให้มีความง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยให้ความหมายกับสิ่งที่พวกเขาได้พัฒนาขึ้นว่า CMS
    joomla เป็น CMS ตัวหนึ่งในหลาย ๆ ตัวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน สำหรับคุณที่ยังไม่รู้จักว่า CMS คืออะไร ขออธิบายสั้น ๆ เพิ่มเติมดังนี้ครับ CMS นั้นเป็นอักษรย่อของ คำว่า "Content Management System" ซึ่งเมื่อแปลเป็นภาษาไทย หมายถึง ระบบบริหารจัดการเนื้อหาของเว็บไซต์  นั่นหมายความว่า สิ่งที่เราจะต้องดูแลก็คือเนื้อหาของเว็บไซต์ เช่น การเพิ่มบทความ การเพิ่มรูปภาพ หรือการปรับแต่งโยกย้ายโมดูลต่าง ๆ  ไม่จำเป็นจะต้องมานั่งเขียน Code ด้วยภาษา HTML, PHP, SQL เพียงแต่เรียนรู้วิธีการติดตั้ง การปรับแต่ง การใช้งาน CMS เท่านั้น  สำหรับ Code ต่าง ๆ ที่นำมาสร้าง และ ออกแบบเว็บไซต์ จะทำโดยทีมงานของผู้พัฒนา CMS ของแต่ละทีม ซึ่งทำให้ประหยัดเวลาในการสร้าง  และออกแบบเว็บไซต์ ได้อย่างมาก

    joomla เป็น CMS ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ  เพราะมีระบบการจัดการเนื้อหาที่มีรูปแบบสากล การปรับแต่งหน้าตาของเว็บไซต์ทำได้ง่าย เพราะ joomla ถูกออกแบบมาให้รองรับกับเทคโนโลยีการ ออกแบบเว็บไซต์ สมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ Flash หรือ GIF Animation นอกจากนี้คุณยังสามารถ Download template ได้อย่างมากมายมีทั้งแบบที่สามารถนำมาใช้งานได้ฟรี (โดยให้เครดิตผู้สร้างนิดหน่อย เช่น ไม่ลบชื่อทีมพัฒนา template นั้นออกจาก template เป็นต้น) หรือหากต้องการ template ที่มีประสิทธิภาพ และมีความสวยงาม ก็สามารถหาซื้อมาใช้ได้ เพราะมีเว็บไซต์ที่ให้บริการจัดทำ template ของ joomla อยู่มากมาย จุดเด่นของ joomla อีกจุดหนึ่งก็คือมี Extension จำนวนมากให้เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้งาน เช่น component, module, Plugin มีทั้งแบบฟรี และแบบต้องชำระเงิน สำหรับเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ joomla คือ http://www.joomla.org   เป็นศูนย์รวมข่าวสารการ Update joomla และคุณสามารถ download joomla และ extension ต่าง ๆ ได้จากที่นี่
    joomla มีการ Update อย่างสม่ำเสมอ ทำให้เรามั่นใจได้ว่าการ ออกแบบเว็บไซต์ ด้วย CMS joomla จะมีความปลอดภัย ซึ่งปัจจุบัน (ตุลาคม 2553) เป็นรุ่น 1.5.21 และที่สำคัญที่สุด joomla รองรับภาษาไทย 100% เพราะมีทีมงานที่คอยดูแลเรื่องภาษา ทำให้เราไม่ต้องมากังวลกับการใช้งานภาษาไทยว่าจะผิดเพี้ยนในส่วนใดหรือไม่ และในขณะนี้ Team ผู้พัฒนา joomla กำลังร่วมกันพัฒนา joomla รุ่นใหม่ คือ joomla 1.6 ซึ่งในขณะนี้ก็ใกล้จะได้ใช้งานกันในเวลาอันใกล้นี้
    สิ่งที่ควรพิจารณาเป็นอันดับต้น ๆ สำหรับการใช้งาน joomla
    สำหรับผู้เริ่มต้นใช้งาน joomla แล้วเกิดปัญหานั้นส่วนใหญ่ ไม่ได้มาจากตัวของ joomla แต่มักจะมีปัญหากับ PHP, MySql, เวอร์ชั่นเก่า ทำให้เกิดปัญหาได้ สำหรับการตรวจเช็คนั้นไม่ยากเลย เพราะในตอนที่ดำเนินการติดตั้งนั้น จะมีหน้าเว็บเพจที่ตรวจสอบว่าสามารถติดตั้ง หรือรองรับได้หรือไม่ หากไม่รองรับให้หาตัวใหม่มาลง  เพราะฉะนั้นตอนติดตั้งมักไม่ค่อยเกิดปัญหา แต่จะเกิดปัญหาตอนที่เราติดตั้งตัวเสริมต่าง ๆ (Extension) ซึ่งบางตัวถึงขั้นไม่สามารถใช้งานได้เลย เพราะติดตั้งไปก็จะ error หรือติดตั้งผ่าน แต่พอใช้งานจริงก็จะมีปัญหา สำหรับคุณที่ต้องการติดตั้งบนโฮสติ้ง ก่อนจะใช้บริการก็ควรเช็ครายละเอียดของโฮสติ้งให้ดีว่า PHP, MySql นั้นเวอร์ชั่นใหม่หรือไม่ จะได้เกิดปัญหาน้อยลง


    Control Panel หัวใจของการจัดการเว็บไซต์ 
    ในส่วนนี้ขอกล่าวเลยไปถึงการจัดการเรื่องสิทธิ์บนโฮสติ้งด้วย เพราะโฮสแต่ละโฮส ก็ีมีนโยบายความปลอดภัยไม่เท่ากัน บางโฮสมีความเข้มงวดมากก็จะทำให้คุณต้องอ่านรายละเอียดการใช้งาน เพื่อทำความเข้าใจมากขึ้น สรุปว่าปลอดภัยแต่ใช้ยากขึ้น (นิดนึง) หากคุณเลือกใช้โฮสในลักษณะนี้มักเกิดปัญหา และต้องโทรหาเจ้าของโฮสอยู่บ่อย ๆ อย่างแน่นอน นอกจากนี้เครื่องมือที่ช่วยในการบริหารจัดการโฮสติ้งก็แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับ Operating System ที่โฮสนั้น ๆ เลือกใช้ (สำหรับในหัวข้อนี้จะเขียนเพิ่มเติมให้เรื่อย ๆ ครับ)


    และทั้งหมดนี้ก็คือบทสรุปคร่าว ๆ ของ CMS joomla สำหรับเนื้อหาในส่วนนี้จะมี Update เพิ่มเติมให้อีกทีครับ  ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราครับ



                         ------------------------จบแล้วจ้า-----------------------

    วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554

    Wordpress



    Wordpress คืออะไร

    Wordpress คือโปรแกรมชนิดหนึ่งที่มีระบบในการช่วยจัดการเนื้อหาบนเว็บ ได้อย่างง่ายดาย หรือที่หลายๆ คนใช้คำว่า Contents Management System (CMS) ซึ่งจริงๆ แล้ว โปรแกรมประเภท CMS มีเยอะแยะ อย่างเช่น PHP Nuke, Joomla, Mambo, OScommerce, Magento เป็นต้น สนใจเกี่ยวกับ CMS 
     Wordpress เป็น CMSประเภทBlogซึ่งพัฒนาขึ้นโดยภาษา PHP และทำงานบนฐานข้อมูล MySQL ภายในสัญญาอนุญาตใช้งานแบบGeneral Public License(GNU)มีเวปไซต์หลักอยู่ที่ http://www.wordpress.org และมี free hosting สำหรับขอรับบริการฟรีที่ http://www.wordpress.com
     
    Wordpress เป็นโปรแกรมที่ใช้งานง่าย สำหรับคนที่ต้องการมีบล็อกส่วนตัว เป็นที่โปรแกรมที่นิยมกันทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยเราด้วยเช่นกันครับ นอกจากการติดตั้งง่ายแล้ว Wordpress ยังมีข้อดีก็คือ เราสามารถหาดาวน์โหลดธีม (Themes) หรือหน้าตาของเว็บ


                                                         -----------------------  จบจ้า  ----------------------- 

    วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2554

    อบรมจริยะธรรม

                                      
    ประวัติ
    ชื่อ พระอาจารย์ ศรศิริ   ติสรโน
    อายุ 39 ปี บวชมา 19 พรรษา
    ตำแหน่ง ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัด สันติวัน

    คติประจำใจของพระอาจารย์

          มีปัญญาอย่างท้อแท้             มีทางแก้เสมอ
          สติมาปัญญาเกิด                   สติเตลิดเกิดปัญหา

    เกราะ 5 ชั้นและคุณธรรม 4 ประการ

    ศีลมีกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด ศีลเป็นเครื่องประดับอันประเสริฐ ศีลเป็นเกราะอัศจรรย์

    ศีล 5 คื่อ ป็นปกติของมนุษย์

    1. ปาณาติปาตา เวรมณี         เว้นจากการทำชีวิตสัตว์ให้ล่วงไป

    2. อทินาทานา เวรมณี            เว้นขโมยเล็กขโมยน้อย

    3.กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี            เว้นจากการประพฤติผิดในกาม



     4. มุสาวาทา เวรมณี           เว้นจากการพูดเท็จ

    5. สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี         เว้นจากการดื่มน้ำเมา  อันเป็นสิ่งที่เราประมาท


    ทำไมต้องรักษาศีล ?
    ศีลข้อ ๑ เพราะ ใครๆ ก็รักชีวิตตัวเอง 
    ศีลข้อ ๒ เพราะ ใครๆก็อยู่เป็นสุขได้ด้วยสมบัติของเขา
    ศีลข้อ ๓ เพราะ ใครๆ  ก็รักพี่น้องพวกพ้องของเขา
    ศีลข้อ ๔ เพราะ ใครๆ ก็รักความจริงใจด้วยกันทั้งนั้น
    ศีลข้อ ๕ เพราะว่าเมื่อดื่มเข้าไปแล้ว จะทำลายสติของเรา
                   เมื่อสติของเราเสียหายไปแล้ว ศีลข้ออื่นๆ ก็พร้อม
                  ที่จะขาดไปหมด
    องค์แห่งศีล ข้อที่ ๑
    “ เว้นจากการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป
    ๑)      ปาโณ               สัตว์มีชีวิต
    ๒)    ปาณสญฺญิตา      รู้ว่าสัตว์มีชีวิต
    ๓)     วธกจิตฺตํ            มีจิตคิดจะฆ่า
    ๔)     อุปกฺกโม           ทำความพยายามฆ่า
    ๕)    เตน มรณํ            สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น
    องค์แห่งศีล ข้อที่ ๒
    เว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ด้วยอาการแห่งขโมย
    ๑)     ปรปริคฺคหิตํ                           ของนั้นมีเจ้าของหวงแหน
    ๒)    ปรปริคฺคหิตสญฺญิตา               รู้ว่ามีเจ้าของหวงแหน
    ๓)     เถยฺยจิตฺตํ                                มีจิตคิดจะลัก
    ๔)     อุปกฺกโม                                ทำความพยายามลัก
    ๕)    เตน หรณํ                                นำของมาได้ด้วยความพยายามนั้น   
    องค์แห่งศีล ข้อที่ ๓
    “ เว้นจากการประพฤติผิดในกาม
    ๑)     อคมนียวตฺถุ                           วัตถุที่ไม่ควรล่วงละเมิด
    ๒)   ตสฺมึ เสวนจิตฺตํ                        มีจิตคิดจะเสพ
    ๓)    เสวนปฺปโยโค                        พยายามที่จะเสพ
    ๔)    มคฺเคน มคฺคปฺปฏิปตฺติ           กระทำการให้มรรคต่อมรรคจดกัน

    องค์แห่งศีล ข้อที่ ๔
    “ เว้นจากการพูดเท็จ
    ๑)      อตถํ                            เรื่องไม่จริง
    ๒)    วสํวาทนจิตฺตํ             จิตคิดจะพูดให้ผิด
    ๓)     ตชฺโช วายาโม                        พยายามพูดออกไปตามจิตนั้น
    ๔)     ปรสฺส ตตฺถวิชานนํ    ผู้ฟังเข้าใจเนื้อความนั้น

    องค์แห่งศีล ข้อที่ ๕
    “ เว้นจากการดื่มน้ำเมา
    ๑)      มทนียํ             สิ่งที่เป็นเหตุให้มึนเมา (คือมีเหล้าเบียร์)
    ๒)    ปาตุกมฺยตาจิตฺตํ          จิตคิดจะดื่มหรือเสพ
    ๓)     ตชฺโช วายาโม            พยายามดื่มหรือเสพตามที่จิตคิดนั้น
    ๔)     ปิตปฺปเสวนํ    ดื่มน้ำเมาหรือเสพสารเสพติดนั้นเข้าไป
    วิบากกรรมของการผิดศีลข้อ ๑     ฆ่าสัตว์>>อายุสั้น
    วิบากกรรมของการผิดศีลข้อ ๒    ลักทรัพย์>>ทรัพย์สมบัติพินาศ
    วิบากกรรมของการผิดศีลข้อ ๓    ประพฤติผิดในกาม>>ครอบครัวแตกแยก
    วิบากกรรมของการผิดศีลข้อ ๔    โกหก>>โรคภายในช่องปาก
    วิบากกรรมของการผิดศีลข้อ ๕    ดื่มน้ำเมา>>โง่เขลา, ปัญญาอ่อน
    วิธีสร้างเกราะภายในตน
    คือ การตั้งเจตนางดเว้นจากการประพฤติผิดทางกายและวาจา
    ๑. งดเว้นโดยไม่ตั้งใจไว้ก่อน
    ๒. งดเว้นโดยตั้งใจและปฏิญาณไว้ก่อน

              ทศพิธราชธรรม
    1. ทาน (ทานํ) หมายถึงการให้ การเสียสละ นอกจากเสียสละทรัพย์สิ่งของแล้ว ยังหมายถึงการให้น้ำใจแก่ผู้อื่นด้วย
    2. ศีล (ศีลํ) คือความประพฤติที่ดีงาม ทั้ง กาย วาจา และใจ ให้ปราศจากโทษ ทั้งในการปกครอง อันได้แก่ กฎหมายและนิติราชประเพณี และในทางศาสนา
    3. บริจาค (ปริจาคํ) คือ การเสียสละความสุขส่วนตน เพื่อความสุขส่วนรวม
    4. ความซื่อตรง (อาชชวํ) คือ ความซื่อตรงในฐานะที่เป็นผู้ปกครอง ดำรงอยู่ในสัตย์สุจริต
    5. ความอ่อนโยน (มัททวํ) คือ การมีความอ่อนโยน มีสัมมาคารวะต่อผู้อาวุโสและอ่อนโยนต่อบุคคลที่ เสมอกันและต่ำกว่า
    6. ความเพียร (ตปํ) คือ มีความอุตสาหะในการปฏิบัติงาน โดยปราศจากความเกียจคร้าน
    7. ความไม่โกรธ (อกฺโกธ) คือ ความไม่แสดงความโกรธให้ปรากฏเห็นเช่นทำร้ายผู้อื่นแม้จะลงโทษผู้ทำผิดก็ทำตามเหตุผล
    8. ความไม่เบียดเบียน (อวิหิงสา) คือ การไม่เบียดเบียน หรือบีบคั้น ไม่ก่อทุกข์หรือเบียดเบียนผู้อื่น
    9. ความอดทน (ขันติ) คือ การมีความอดทนต่อสิ่งทั้งปวง รักษาอาการ กาย วาจา ใจให้เรียบร้อย
    10. ความเที่ยงธรรม (อวิโรธนํ) คือ ความหนักแน่น ถือความถูกต้อง เที่ยงธรรมเป็นหลัก ไม่เอนเอียงหวั่นไหวด้วยคำพูด อารมณ์ หรือลาภสักการะใดๆ
                                           ------------------  จบ   ------------------